นิทาน… เรื่องเล่นเล่น

นางสาวสมศรี  แสงสว่างชัย
หัวหน้าหน่วยพัฒนาการเด็ก และพยาบาลชำนาญการ  หน่วยพัฒนาการเด็ก
งานการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์
ฝ่ายการพยาบาล  โรงพยาบาลศิริราช


นิทาน  สิ่งที่น่าสนใจ หลายๆคนชื่นชอบ มีอรรถรสชวนให้ติดตาม บ้างก็เล่าเป็นเพลงแหล่  เป็นเพลงกล่อมเด็ก  ขึ้นกับขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละท้องถิ่น  ซึ่งมีการสืบทอดกันมา อาจมีต้นกำเนิดจากเรื่องจริง จินตนาการ  ความเชื่อ หรือสิ่งที่ปฏิบัติตามๆกันมา นำมาเขียนเป็นร้อยกรองร้อยแก้ว  ให้มีความหลากหลาย  ซึ่งเป็นพื้นฐานการเล่นแบบหนึ่ง ปัจจุบันจะเห็นนิทานในรูปแบบหนังสือที่มีรูปภาพสวยงาม ชวนให้สนใจมากขึ้น  ซึ่งนิทานเป็นส่วนหนึ่งของการเล่น  เด็กๆชอบให้เล่านิทาน ถ้าเป็นผู้มีลีลาท่าทางมีการทำน้ำเสียงสูงๆต่ำๆ หรือมีทำนองเล่าขานเป็นกลอน  เด็กจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ นิ่ง ฟังอย่างใจจดใจจ่อ  ถ้ามีอุปกรณ์ประกอบการเล่าด้วยก็ช่วยดึงดูดความสนใจเพิ่มขึ้น

ในบางครั้งเด็กอาจไม่เข้าใจเรื่องราว
แต่ก็เพลินเพลิดมาก เด็กๆที่เข้าใจภาษา จะสร้างภาพขึ้นในสมอง มีการทำงานของสมองในหลายๆส่วน  ถ้าได้เล่านิทานหลายๆเรื่อง และซ้ำๆจะทำให้สมองมีการสร้างเครือข่ายเส้นใยประสาทมากขึ้น เซลสมองมีความแข็งแรงไม่ถูกทำลาย เด็กก็จะมีสติปัญญาดี  มีความคิดสร้างสรรค์  มีจินตนาการ  มีความสนใจและตั้งใจในการเรียนรู้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ดี มีนิสัยรักการอ่าน มีสมาธิ  ส่งผลดีต่อการเรียนรู้ในอนาคต  นอกจากนี้การเล่านิทานให้เด็กฟัง เป็นการสร้างความสามารถทางอารมณ์ที่ดี  เด็กจะได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม  เรียนรู้การแสดงออกทางอารมณ์ และการแก้ไขปัญหาที่ดี ผ่านเรื่องราวต่างๆในนิทาน


ตรงกับคำกล่าวของ  น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ว่า นิทานมีความสำคัญมากในการสร้างไอคิวอีคิวให้เด็กถึง 70% ถึงแม้การเล่านิทานจะมีความสำคัญมาก แต่จากการศึกษาของ กรมอนามัยในประเทศไทย กับครอบครัวจำนวนมากกว่า 3,389 ครอบครัว ปี 2546 พบว่า   เพียงร้อยละ 2 ที่พ่อแม่เริ่มเล่านิทานตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์   พ่อแม่จำนวน 2 ใน 3 เริ่มเล่านิทานเมื่อลูกอายุ 1-3 เดือน ขณะที่พ่อแม่ 1 ใน 3 ไม่เคยเล่านิทานให้ลูกฟังเลยในรอบ 1 เดือน  ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเผยแพร่ความรู้ให้กับคนทุกกลุ่มวัยให้เห็นความ สำคัญของการเล่านิทานให้เด็กฟัง    ต่อมาทางมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ได้ทำโครงการหนังสือเล่มแรก Bookstart  ปี 2547 โดยเชื่อว่า “หนังสือ เป็นประตูสู่โลกกว้าง” แต่หลังจากการทำโครงการ แล้ว   พบว่า “หนังสือ สามารถเปลี่ยนชีวิตได้” เพราะผลที่ได้รับจากการติดตามพัฒนาการของเด็กกลุ่มนี้นั้น เด็กๆ มีนิสัยรักการอ่าน ติดหนังสือ ชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหนังสือ มากกว่าการดูโทรทัศน์ หรือการเล่นของเล่น ที่สำคัญ หนังสือเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวเป็นตัวเชื่อมกลางระหว่าง พ่อ แม่ ลูก และคนในครอบครัว  ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำคัญของการเล่า/อ่านนิทานอย่างยิ่ง

เมื่อการเล่า/อ่านนิทานมีความสำคัญมากเช่นนี้ พยาบาลย่อมเป็นบุคคลสำคัญอันดับแรกในการให้ความรู้ตั้งแต่หญิงตั้งครรภ์ จนถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก   ต้องเน้นย้ำอย่างจริงจังให้เล่า/อ่านนิทานให้ลูกฟัง   พ่อแม่ผู้ปกครองควรตั้งใจ แบ่งเวลา และทำอย่างเสม่ำเสมอต่อเนื่อง   จึงจะเกิดผลดีต่อลูกในระยะยาวและเพิ่มความสุข ความรักใคร่ผูกพันในครอบครัว  จากหนึ่งครอบครัวเป็นชุมชน และสังคมที่มีความสุข มีคนเก่งและดี ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

www.Cha-lad.com
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrview.aspx?NewsID=9500000068215   กุมภาพันธ์ 11th, 2009
http://www.trf.or.th/News/Content.asp?Art_ID=984    กรกฎาคม 26th, 2011 | Posted by wearehappy