นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สมาคมพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ประเทศไทย ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “สมาคม” มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของสมาชิก ผู้ติดต่อ ผู้สมัครประชุมวิชาการ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (เรียกรวมกันว่า “การประมวลผลข้อมูล”) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สมาคมจึงออกประกาศฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งข้อมูลให้แก่ท่านอันเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ ตลอดจนเงื่อนไขต่างๆ ในการเก็บรวมรวบ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาคมเก็บรวบรวม

ในการเก็บรวบรวมและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของสมาคม อันประกอบด้วย

  1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ–นามสกุล, ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ, สถานที่ทำงาน
  2. ข้อมูลสำหรับติดต่อ เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล
  3. ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร
  4. ข้อมูลที่ได้จากระบบอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หมายเลข IP Address, Cookie, ประวัติการใช้บริการ, เสียง, ภาพถ่าย, ภาพเคลื่อนไหว, ชื่อบัญชี Social Media, Chat, Geolocation

โดยสมาคมจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้

  1. เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและสมาคม
  2. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
  3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  4. เพื่อผลประโยชน์อันชอบโดยกฎหมายของสมาคม กรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมในการดำเนินงานของสมาคม โดยสมาคมจะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล เป็นต้น
  5. เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ กรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
  6. เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่สมาคมได้รับมอบหมาย

แหล่งที่มาของข้อมูล

  1. ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ที่ท่านได้ให้ไว้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การให้ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
  2. ข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาล

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

สมาคมอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้หรือตามวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่แจ้งขณะเก็บรวบรวมข้อมูลหรือที่ท่านได้ให้ความยินยอมหลังจากสมาคมดำเนินการเก็บข้อมูลไปแล้ว

  1. เพื่อตอบสนองการให้บริการแก่ท่าน เช่น การสร้างบัญชีผู้ใช้งาน การติดต่อประสานงาน
  2. ใช้ในการดำเนินกิจการ ประเมินผล และปรับปรุงเพื่อพัฒนาคุณภาพบริการ
  3. ดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งและเรียกเก็บหนี้ การออกใบกำกับภาษี และหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่างๆ ที่กฎหมายกำหนด
  4. ใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของสมาคม
  5. ตอบสนองต่อคำขอของท่าน เช่น การให้บริการแก่สมาชิก การรับเรื่องร้องเรียน

การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

สมาคมจะไม่เปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้

  1. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สมาคมอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก โดยสมาคมจะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
  2. กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย

การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

สมาคมได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของสมาคม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

สมาคมจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยเหตุอื่นใด เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือการตรวจสอบกรณีการเกิดข้อพิพาท สมาคมอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระบุ

การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สมาคมอาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยจะประกาศบนเว็บไซต์ https://thaichildhealth.com/privacy-policy พร้อมระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด สมาคมแนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นประจำ โดยการที่ท่านใช้บริการทางเว็บไซต์ของสมาคมต่อไปหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
  2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
  3. สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่สมาคมได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  4. สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
  5. สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
  6. สิทธิในการถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้
  7. สิทธิในการขอคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเมื่อใดก็ได้
หากท่านมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์จะแก้ไข ลบข้อมูล ใช้สิทธิ หรือติดต่อเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลของท่าน กรุณาติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อด้านล่าง

ช่องทางการติดต่อ

ที่อยู่: ภาควิชาการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700
อีเมล: pnat2557@gmail.com

ประกาศ ณ วันที่ 16 กันยายน 2565